วิวัฒนาการของการสื่อสารไร้สาย
ยุค 1G
เป็นยุคที่ยังสื่อสารกันแบบแอนะล็อก
ใช้สัญญาณวิทยุในการส่งการเชื่อมโยงเครือข่ายเป็นแบบเซอร์กิตสวิตชิ่ง
มีอัตราการรับส่งข้อมูลต่ำกว่า 6.9 Kbps รองรับการรับส่งเฉพาะข้อมูลเสียงเท่านั้น ระบบที่จัดอยู่อยู่ในช่วงนี้คือ
ระบบแอมป์ AMPS ซึ่งเป็นระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบแอนะล็อก
ย่านความถี่ที่ใช้งานอยู่ที่ 800-900 MHz ซึ่งยุคนี้มีข้อจำกัดในการรับส่งอยู่มาก
ไม่ว่าจะเป็นเทคนิคการมอดูเลตแบบ FSK ซึ่งมีความทนทานต่อการรบกวนน้อย
ไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการใช้งาน ทำให้ลักลอบใช้งานได้ง่าย
การส่งสัญญาณระบบนี้ เมื่อส่งคลื่นออกไปสัญญาณจะอ่อนลงเรื่อยๆ
ตามระยะทางจึงต้องอาศัยเครื่องขยายสัญญาณ Amplifier ซึ่งก็ทำให้เกิดสัญญาณรบกวนได้
ทำให้คุณภาพเสียงไม่ชัดเจนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง
และอุปกรณ์มีขนาดใหญ่ไม่สะดวกในการพกพา
ยุค
2G
เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนการส่งสัญญาณแบบแอนะล็อกเป็นการเข้ารหัสแบบดิจิทัล
อัตราการรับส่งข้อมูลสูงขึ้นประมาณ 10-30 Kbps เนื่องจากมีการเข้ารหัสข้อมูลจึงทำให้มีความปลอดภัยของข้อมูลมากขึ้น
นอกจากข้อมูลเสียงแล้วยังสามารถส่งข้อมูลแบบอื่นได้ด้วย โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคนี้มีการออกแบบให้มีขนาดเล็กลงมากสามารถพกพาได้สะดวกความเร็วในการรับส่งสูงขึ้น เทคโนโลยีในการสื่อสารในยุคนี้ ได้แก่ ระบบทีดีเอ็มเอ TDMA ระบบจีเอสเอ็ม GSM
ระบบซีดีเอ็มเอวัน CDMAone แว็ป WAP
ยุค
2.5G
ยุคนี้การสื่อสารเป็นระบบดิจิตัลทั้งหมด
การพัฒนาทำในกรอบให้มีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเครือข่าย 2G
ให้น้อยที่สุด มีการใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อวงจรแบบแพ็คเกจสวิตชิ่ง
คือมีการแบ่งข้อมูลออกเป็นแพ็คเกจย่อยๆ ทำให้สามารถรับส่งได้ดีขึ้น ทำให้ผู้ใช้งานหลายรายสามารถรับส่งข้อมูลพร้อมกันได้
ทั้งยังสามารถตรวจสอบความผิดพลาดในการรับส่งได้ อัตราการรับส่งข้อมูลอยู่ที่ ระดับ
144
Kbps เทคโนโลยีที่สำคัญดังนี้
ยุค
3G
เป็นยุคสื่อประสม
สามารถรับส่งข้อมูล เสียง ภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว รวมทั้งโปรแกรมต่างๆ บนอินเตอร์เน็ต
ได้เต็มรูปแบบผ่านอุปกรณ์สื่อสารไร้สายที่สามารถพกพาไปได้ทุกที่ ด้วยความเร็วสูงระดับ
เมกะบิตต่อวินาที Mbps เนื่องจากในยุคก่อนการสื่อสารยังไม่สามารถให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วโลก
เพราะเทคโนโลยีที่แตกต่างกัน สมาพันธ์โทรคมนาคมระหว่างประเทศ ITU
เป็นหน่วยงานสังกัดองค์การสหประชาชาติ
ได้กำหนดแนวทางการสื่อสารที่เป็นมาตรฐานสากล โดยได้กำหนดระบบเครือข่ายไร้สายยุค 3G
ที่เรียกว่า IMT-2000 ทำให้ผู้ใช้สามารถสื่อสารกันได้ทั่วโลก
เทคโนโลยีที่สำคัญดังนี้
ยุค
4G
ยุคนี้เป็นยุคบอร์ดแบนด์
หรือยุคไฮบริด
เป็นยุคของโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันโดยการกำหนดมาตรฐานตามแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นในอนาคตเนื่องจาก
3G ไม่สามารถตอบสนองของระบบที่มีการรับส่งข้อมูลเป็นจำนวนมาก
และต้องการความเร็วสูง เช่น มัลติมีเดีย วีดีโอภาพเคลื่อนไหวเต็มรูปแบบ
การประชุมทางโทรศัพท์ไร้สาย นอกจากนี้ 4G ยังพัฒนาเรื่องความปลอดภัยโดยการนำเอาไบโอแมทริกมาผสมผสาน
ทำให้สามารถซื้อขายสินค้าผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือ Mobile internet และยังหักเงินในบัญชีธนาคารเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายค่าสินค้าหรือบริการได้ทันที